• งาน Part time ทำที่บ้านช่วงวันหยุด

    เป็นงานพิเศษ ไม่กำหนดเวลา การทำงานทั้งหมดเราเป็นคนกำหนดเอง

  • งาน Part time เวลาว่าง ทำผ่านเน็ตจ่ายรายวัน

    เป็นงานคีย์ข้อมูลอยู่ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องมาออฟฟิศทุกวัน ทำควบคู่กับงานประจำได้

  • งาน Part time นักเรียน/นักศึกษา

    สำหรับน้องๆนักศึกษาที่กำลังมองหางานพิเศษทำในระหว่างวันที่ไม่มีเรียน ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ อยู่หน้าจอคอมก็สามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้แล้ว

  • งาน Part time เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

    สำหรับบุคคลที่กำลังมองหารายได้เสริมเพื่อเป็นงานเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง งานพิเศษที่ไม่กระทบงานประจำ งานทำที่บ้านจ่ายรายวัน คีย์ข้อมูลหน้าจอคอมฯ

  • งาน Part time คีย์ข้อมูล

    หน้าที่หลักคือการคีย์ข้อมูลอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น ทำงานที่ไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ มีงานประจำอยู่แล้วก็สามารถทำงานนี้ได้ไม่มีข้อยกเว้น

แหล่งรวมงานพิเศษทำที่บ้าน งาน Part time รายวัน และรายได้เสริมอื่นๆอีกมากมาย สนใจงานไหนก็สามารถคลิ๊กดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานและวิธีการสมัครงานได้เลยนะค่ะ !!
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ท่องเที่ยวไทย แสดงบทความทั้งหมด

สถานที่ท่องเที่ยวหัวหิน ที่ไม่ไปไม่ได้แล้ว



เรียกได้ว่า "หัวหิน" ในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากในสมัยก่อนเป็นอย่างมาก และการมาเที่ยวที่หัวหินก็ไม่จำกัดว่าจะต้องเลือกเที่ยวทะเลเพียงอย่างเดียว เพราะด้วยความเจริญของยุคสมัย รวมทั้งการลงทุนบริเวณพื้นหัวหินมากขึ้น รายละเอียดเพิ่มเติมคลิกอ่านเลยค่ะ 




สถานที่ท่องเที่ยวหัวหิน ที่ไม่ไปไม่ได้แล้ว 

ทำให้อำเภอหัวหินกลายเป็นทำเลทอง แต่ในส่วนของการท่องเที่ยวแล้ว หัวหินก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นใหม่มากมาย วันนี้กรเว็บท่องเที่ยวของเราจึงได้รวบรวม 18 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ที่พอมาถึงหัวหินแล้วพลาดไม่ได้มาให้ชมกัน ส่วนจะมีที่ไหนบ้างนั้นไปชมกันเลยจ้า...


1. ชายหาดหัวหิน


          สถานที่ยอดนิยมตลอดกาลของหัวหิน นั่นก็คือ ชายหาดหัวหิน ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของตัวเมือง มีทางลงหาดอยู่ที่ถนนดำเนินเกษม สองข้างทางลงหาดมีโรงแรมและร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก โดยหาดหัวหินมีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ทรายขาวละเอียดเหมาะสำหรับเล่นน้ำทะเล

2. ตลาดโต้รุ่งหัวหิน


          เริ่มต้นจากที่เที่ยวที่แรก ตลาดโต้รุ่งหัวหิน เป็นตลาดกลางถนนเดชานุชิต ที่มีการปิดถนนไม่ให้รถผ่าน เพื่อทำเป็นถนนคนเดิน ให้คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวได้เดินจับจ่ายซื้อของกิน ของใช้ และของที่ระลึก โดยถนนดังกล่าวตัดตั้งฉากกับถนนเพชรเกษม จึงหาได้ไม่ยากนัก ตลาดเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 18.00–24.00 น. และหนึ่งในบรรดาร้านรวงต่าง ๆ ที่เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวต่างยกนิ้วให้ ก็คือ โรตีอินเตอร์ และไอศกรีมโฮมเมดร้านเจ๊นิ

          ที่อยู่ : ซ.หัวหิน 72 ถนนเดชานุชิต-ถนนพระปกเกล้าฯ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์


3. น้ำตกป่าละอู


          เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีความสูง 15 ชั้น ไหลลดหลั่นลงมาเป็นทางยาว ชั้นที่ 1-3 เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ ส่วนน้ำตกชั้นที่สวยที่สุด คือ น้ำตกชั้นที่ 7 เพราะมีแอ่งน้ำใหญ่อยู่ท่ามกลางป่าร่มครึ้ม ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะชมความงามของน้ำตกถึงบริเวณชั้น 7 เท่านั้น เนื่องจากน้ำตกชั้นที่สูงขึ้นไปต้องปีนป่ายไปตามโขดหินสูงชัน โดยจากชั้นที่ 7 เป็นทางสามแพร่ง หากไปทางขวาจะไป น้ำตกคลองปราณ ใช้เวลาเดินประมาณ 1 วัน จึงจะถึง หากไปทางซ้ายจะเข้าเขตป่าละอู ซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของชาวกะเหรี่ยง กะหร่าง และจากน้ำตกชั้นที่ 15 ไปอีกไม่ไกลจะถึงเขตพรมแดนไทย-พม่า ทั้งนี้ คำว่า ละอู เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า ไผ่ ดังนั้น ป่าละอู คือ ป่าไผ่ นั่นเอง แต่บางคนเห็นว่าป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยหญ้าเลาที่ออกดอกสีเทาหม่น จึงเรียกป่าผืนนี้อีกชื่อว่า ห้วยป่าเลา โดยวันที่ 2 มกราคมของทุกปี ที่ หมู่บ้านป่าละอู จะมีงานวันอนุรักษ์วัฒนธรรม มีการแสดงการควงกระบองไฟและไหว้พระจันทร์

          ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (ตอนใต้) อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
          โทรศัพท์ : 08 7161 2922
         


4. สถานีรถไฟหัวหิน



          หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในอำเภอหัวหิน ซึ่งเอกลักษณ์ของสถานีรถไฟแห่งนี้ คือ พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ เป็นพลับพลาจัตุรมุข สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพลับพลานี้มีไว้ในการที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เสด็จประทับทอดพระเนตรกองเสือป่าและลูกเสือทั่วประเทศทำการฝึกซ้อมยุทธวิธีเป็นประจำทุกปี หลังจากสิ้นรัชสมัยของพระองค์ การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงได้รื้อถอนมาเก็บไว้ และเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2511 จึงได้มีการนำเครื่องอุปกรณ์ก่อสร้างของพลับพลาสนามจันทร์มาปลูกสร้างขึ้นใหม่ที่หัวหิน เพื่อเป็นที่ประทับขึ้นและลงรถไฟของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมตั้งชื่อใหม่ว่า “พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ” ซึ่งถือเป็นสถานีรถไฟที่เชิดหน้าชูตาของชาวอำเภอหัวหิน และยังเป็นที่เก็บหัวรถจักรไอน้ำเก่าที่การรถไฟฯ สั่งซื้อมาจากประเทศอังกฤษ อีกทั้งยังเคยวิ่งให้บริการในเส้นทางรถไฟก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย

          นอกจากนี้ ในบริเวณใกล้เคียง ๆ ยังมีสถานที่ตั้งของห้องสมุดรถไฟ ตั้งอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟหัวหิน โดยการนำโบกี้รถไฟอายุกว่า 50 ปี มาแปลงโฉมกลายเป็นห้องสมุดประชาชนแห่งที่ 2 ของหัวหิน ซึ่งความยาว 2 โบกี้ มีหนังสือกว่า 2,000 เล่ม 

          ที่อยู่ : ต.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
          โทรศัพท์ : 0 3251 1073
         


5. เวเนเซีย หัวหิน




          เวเนเซีย หัวหิน เป็นช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ที่สร้างขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นโครงการที่จำลองเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี มาไว้ที่เมืองไทย โดยภายในโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการสัมผัสความเป็นเวนิสได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีการจำลองจัตุรัสเซ็นต์มาร์ค (St. Mark Square) และหอระฆัง (Bell Tower) สัญลักษณ์ของเมืองเวนิส ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกมาไว้ที่ด้านหน้าโครงการ เพื่อเป็นลานกิจกรรมขนาดใหญ่ และจุดชมวิวอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นเวนิส คือ คลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal) ความยาวกว่า 200 เมตร ที่มีเรือกอนโดลาล่องไปในบรรยากาศเสมือนอยู่ในเวนิสจริง ๆ ส่วนทางด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบอาคารในแต่ละโซนจะมีรูปแบบสีสันที่แตกต่างกัน โดยล้อไปกับสถาปัตยกรรมในแต่ละเกาะของเมืองเวนิส ล้อมรอบด้วยการจัดวางภูมิทัศน์ที่งดงาม ประกอบด้วยสวนดอกไม้นานาพรรณ ลานน้ำพุ และงานประติมากรรมที่บ่งบอกความเป็นเวนิสอย่างแท้จริง        

          ที่อยู่ : 1899 ถนนเพชรเกษม (ทรายใต้) ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
          โทรศัพท์ : 0 3244 2823-5, 0 8384 2230-1
          

6. ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม


          ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม เป็นตลาดน้ำในบรรยากาศรัตนโกสินทร์ย้อนยุคสมัยรัชกาลที่ 6 ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์หัวหินแบบใหม่ ที่เน้นโทนสีขาวและแดง คล้าย ๆ สถานีรถไฟหัวหิน ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ มีร้านค้าทั้งหมด 193 ร้าน และเรือขายสินค้า 40 ลำ อีกทั้งตลาดยังถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขา และติดแหล่งน้ำธรรมชาติอย่าง "ลำห้วยสามพันนาม" จึงทำให้มีบรรยากาศเย็นสบาย ร่มรื่น เป็นธรรมชาติในแบบที่ไม่ต้องปรุงแต่งมากนัก แถมยังมีการแสดง โชว์แสง สี เสียง อันตระการตาให้ชมทุกวัน ในส่วนของอาหารการกิน ที่ตลาดน้ำหัวหินสามพันนามที่ทั้งอาหารคาวหวานให้เลือกชิม เลือกรับประทานมากมาย โดยจะนั่งที่ซุ้มมุงริมน้ำ หรือเดินไปนั่งรับประทานที่โต๊ะญี่ปุ่นเล็ก ๆ มีเสื่อปูให้นั่งสบาย ๆ ก็ได้ นอกจากนี้ ยังมีสินค้าอื่น ๆ ทั้งเสื้อผ้า, กระเป๋า, ของที่ระลึก รวมทั้งสินค้าแฮนด์เมดอีกด้วย

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการเข้าเยี่ยมชมฟรีทุกวัน วันธรรมดา เวลา 09.00-20.00 น., วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 09.00-21.00 น. 
          ที่อยู่ :  88/8 ม.13 ถ.หนองหอยทับใต้ ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
          โทรศัพท์ : 08 1457 8888, 08 0240 5555
      

7. ตลาดน้ำหัวหิน


          เป็นอีกหนึ่งตลาดน้ำตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหัวหิน มีการออกแบบในสไตล์โคโลเนียล ที่จะได้สัมผัสบรรยากาศสุดคลาสสิกแห่งวันวาน ด้วยการเนรมิตพื้นที่กว่า 40 ไร่ และด้วยสถาปัตยกรรมและการตกแต่งในสไตล์หัวหินย้อนยุค ซึ่งประยุกต์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การเที่ยวของคนยุคใหม่ เพื่อให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองหัวหิน ที่ผู้มาเยือนจะได้ทั้งพักผ่อนและสนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งแบบครบรส นอกจากนี้ ยังมีร้านค้ามากมาย ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งไม่รู้เบื่อ แถมด้วยการเติมพลังงานกับอาหารเลิศรสท่ามกลางบรรยากาศกลางน้ำแบบสบายๆ สะอาด และไม่แออัด แวะไปเติมความสนุกสนานและถ่ายรูปที่ฟาร์มด้านหลังของ พายเรือ ชมความงามของอาคารอันสวยงามสุดคลาสสิก

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน จันทร์-อาทิตย์ เวลา 09.30-07.00 น.
          ที่อยู่ :  99/9 ม.3 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
          โทรศัพท์ : 0 3282 7888, 08 1197 7772-4

8. เพลินวาน หัวหิน



          สถานที่สำหรับเข้าไปซึมซับบรรยากาศความสุขสไตล์ย้อนยุค เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะให้เป็นศูนย์รวมแห่งความสุข และการเรียนรู้รากเหง้าการดำเนินชีวิตแบบดั้งเดิมในวันวาน ตามสโลแกน "Play and Learn ในวันวาน" โดยเพลินวานถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นย่านการค้าย้อนยุคที่มีชีวิต ด้านในเป็นที่ตั้งร้านค้าต่าง ๆ กว่า 40 ร้าน เรียงรายให้ได้ชมกันอย่างเพลิดเพลิน ทั้งร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, ร้านเสื้อผ้า, ร้านโชว์ห่วย และร้านขายเทปคลาสสิก ฯลฯ ซึ่งแต่ละร้านจะมีการออกแบบเน้นสไตล์ย้อนยุคด้วย

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. วันศุกร์ เปิดเวลา 10.00-24.00 น. วันเสาร์เปิดเวลา 09.00-24.00 น. และวันอาทิตย์เปิดเวลา 09.00-22.00 น. (โดยไม่เสียค่าเข้าชม)
          ที่อยู่ : ซ.38 ใกล้เขตพระราชวังไกลกังวล ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
          โทรศัพท์ : 0 3252 0311 ต่อ 101
          
9. The Cicada Market



          The Cicada Market หรือตลาดจักจั่น เป็นตลาดยามเย็น โดยปรับปรุงจากบ้านพักตากอากาศอายุเก่าแก่กว่า 60 ปี มาเป็นสวนยามเย็นที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี บนเนื้อที่ 10 ไร่ ตลาดแห่งนี้เกิดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ "Open Mind & Open Mat : เปิดเสื่อ-เปิดใจ-เปิดไอเดีย" ดังนั้น ที่นี่จึงเป็นแหล่งสำหรับจำหน่ายงานศิลปะร่วมสมัยแขนงต่าง ๆ รวมไปถึงสิ่งประดิษฐ์ งานแฮนด์เมด ของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้มือสอง สินค้าที่มีสไตล์การออกแบบอย่างสร้างสรรค์ ในส่วนของการเปิดใจและเปิดไอเดียนั้น ในทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ จะมีกิจกรรม Workshops จากกลุ่มชมรมต่าง ๆ เช่น กลุ่มเล่านิทาน กลุ่มละคร กลุ่มเต้นรำ กลุ่มถ่ายภาพ กลุ่มนักแสดงเปิดหมวก ฯลฯ ที่ผลัดกันมาสร้างสีสันและสุนทรียภาพให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ศุกร์ เสาร์ และวันอาทิตย์ เวลา 16.00-23.00 น.
          ที่อยู่ : 83/159 ซ.หมู่บ้านหนองแก ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
          โทรศัพท์ : 0 3253 6606, 08 0650 4334, 08 1880 4004
         

10. รฤก หัวหิน


          นอกจากจะเป็นสถานที่เที่ยวใหม่ที่จะนำพาเราย้อนรำลึกเมืองหัวหินในช่วงอดีตแล้ว รฤก หัวหิน ยังเป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร เครื่องดื่มที่ทั้งอร่อย สะอาด ราคาย่อมเยา บรรยากาศน่านั่งฟังดนตรีและชมการแสดงที่ถ่ายทอดวิถีชีวิตของคนสมัยก่อนผ่านภาพเก่าของหัวหิน บนเรือนไม้ร่วม 100 ปี คละเคล้าบรรยากาศทะเล ๆ ซึ่งที่นี่สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดที่ว่า จุดพักริมชายทะเลใกล้เมือง ร้อยเรื่องราวอดีตหัวหินในวันวาน ร่วมสืบสานความเป็นพื้นเมือง รำลึกถึงความเป็นหัวหิน ที่นัดพบและมุมอร่อยภายใต้บรรยากาศสุดชิล ๆ พร้อมทั้งยังถือเป็นจุดนัดพบในบรรยากาศสไตล์สมัยใหม่กึ่งย้อนยุค ให้เหล่าเพื่อน ๆ ได้ร่วมเฮฮาตลอดทั้งวัน ดื่มด่ำกับบรรยากาศเรียบง่าย สบาย ๆ และรับรู้ถึงกลิ่นอายความเป็นหัวหินเมื่อครั้งอดีต

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 10.00-20.30 น. และวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-21.00 น.
          ที่อยู่ : ซอยหัวหิน 51 ถนนแนบเคหาสน์ ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
          โทรศัพท์ : 08 9764 5466, 08 6345 8668
   

11. วัดห้วยมงคล


          วัดห้วยมงคล เป็นวัดที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก หน้าตักกว้าง 9.9 เมตร สูง 11.5 เมตร ฐานสูง 3 ชั้น แต่เดิมใช้ชื่อว่า "วัดห้วยคต" ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานนามใหม่จาก “ห้วยคต” เป็น “ห้วยมงคล” มากว่าสี่สิบปีมาแล้ว นอกจากนี้ บริเวณวัดยังมีรูปสลักหลวงพ่อทวดแกะจากไม้ตะเคียนทองขนาดใหญ่ ให้ประชาชนได้สักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล บริเวณรอบ ๆ องค์พระสามารถมองเห็นทิวเขาล้อมรอบได้อีกด้วย


          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 05.00-21.00 น.
          ที่อยู่ : ม. 6 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
          โทรศัพท์ : 0 3257 6187, 0 3257 6297


12. ตลาดฉัตรไชย


          ตลาดฉัตรไชย เป็นตลาดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของหัวหิน เป็นที่รู้จักดีในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษมในตัวเมืองหัวหิน ตลาดแห่งนี้สร้างในปี พ.ศ. 2469 ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ในคราวเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับ ณ วังไกลกังวล ครั้งแรกพร้อมกับ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี โดยราชสกุลฉัตรไชย พลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธินฯ ทรงเป็นหัวหน้าจัดสร้างขึ้นน้อมเกล้าฯ ถวาย ตลาดก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ลักษณะของหลังคาเป็นรูป 7 โค้งอันเป็นสัญลักษณ์หมายถึง สร้างในสมัยรัชกาลที่ 7 ปัจจุบันตลาดแห่งนี้กลายเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าที่ระลึก อาหารสดและแห้ง

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 05.00-18.00 น. 
          ที่อยู่ : ถ.เพชรเกษม อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 
          โทรศัพท์ : สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ โทรศัพท์ 0 3251 3885


13. สวนสนประดิพัทธ์


          เป็นสถานที่พักผ่อนอีกหนึ่งที่ตั้งอยู่ในส่วนของกองทัพบก ห่างจากตัวอำเภอหัวหินประมาณ 7 กิโลเมตร พื้นที่ด้านหน้าติดถนนเพชรเกษม ส่วนด้านหลังติดริมชายหาด ซึ่งมีความสวยงาม ใสสะอาด ความสวยงามของเม็ดทราย น้ำทะเลคล้ายกัน แต่เสน่ห์ของหาดสวนสนที่น่าประทับใจกว่า ก็คือ บรรยากาศที่เงียบสงบ ร่มรื่นด้วยทิวสนประดิพัทธ์ตลอดแนวหาด และยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันมีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือ

          1. พื้นที่ด้านทิศเหนือ มีการสร้างอาคารพัก อาคารรับรอง และบ้านพักปรับอากาศ ศูนย์พัฒนากอล์ฟ ตลอดแนวชายหาด เพื่อให้เป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ของนั่งท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพักในสถานที่พักฟื้นแห่งนี้

          2. พื้นที่ด้านทิศใต้ เป็นพื้นที่เลียบชายทะเลด้านทิศใต้ของอาคารรับรองกองทัพบก เป็นพื้นที่ลู่วิ่งเพื่อสุขภาพ สถานที่ถัดไปเป็นที่ตั้งค่ายพักแรมและพักผ่อนกองทัพบก ซึ่งบริเวณที่พักของสวนสนประดิพัทธ์ จะอยู่ลึกเข้าไปอีก 1.5 กิโลเมตร

          ที่อยู่ : ถ.เพชรเกษม  ต.หนองแก  อ.หัวหิน  จ.ประจวบคีรีขันธ์
          โทรศัพท์ : 0 3253 6581, 08 1986 6984
       


14. ฟาร์มแกะดำ หัวหิน


          ฟาร์มแกะดำหัวหิน หรือ Black Sheep Hua Hin Fun Farm ฟาร์มแกะในร่มที่แรกและที่เดียวของประเทศไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ว่า "ฟาร์มแกะในร่ม ไม่ร้อนทั้งคนทั้งแกะ" ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 15 ไร่ เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับเดินทางเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ปกคลุมทั่วทั้งฟาร์ม เน้นความเรียบง่าย เป็นกันเอง ให้ผู้ที่มาเที่ยวชมได้รู้สึกผ่อนคลายกับบรรยากาศสบาย ๆ ด้วยการสร้างฟาร์มเล็กๆ ที่มีทั้งแกะ แพะ กวาง กระต่าย และไก่งวง ให้น้อง ๆ หนู ๆ ได้ให้อาหารสัตว์กันอย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ ที่ฟาร์มยังมีผลิตภัณฑ์ของฝากซึ่งทำมาจากแกะให้ได้ช้อป อาทิ สบู่นมแกะ NZ, สบู่นมวัว NZ และสบู่สมุนไพรธรรมชาติ ทั้งสบู่มังคุด ตะไคร้ ขมิ้น มะละกอ และมะขาม ช่วยทั้งรักษาผิวหน้าและบำรุงผิวกาย, ทอฟฟี่นมแกะ, ของฝากน่ารัก ๆ ที่มีหลากหลายรสให้เลือก รวมถึงผลิตภัณฑ์นมแกะรสชาติต่าง ๆ

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน จันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น. และเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-17.30 น.
          อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
          ที่อยู่ : 150 หมู่7 ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
          โทรศัพท์ : 08 6672 7737, 08 6170 9240, 08 4718 9318
     


15. ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ วินยาร์ด


          ท่องเที่ยวไร่องุ่นในบรรยากาศชิล ๆ เต็มไปด้วยต้นองุ่นเขียวขจีไปทั่วภูเขา ขนาดใหญ่ 200 ไร่ มีแต่ต้นองุ่นเขียวไปหมด ล้อมรอบด้วยภูเขา เป็นภาพที่สวยมาก ๆ ไร่องุ่นของที่นี่เป็นของบริษัทสยามไวเนอนี่ ที่ผลิตไวน์ไทย มอนซูน แวลลีย์ โดยจะปลูกองุ่นสายพันธุ์ชีราสและโคลอมบาร์ด เนื่องจากเหมาะกับสภาพอากาศร้อนในประเทศไทย ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจของที่นี่ คือ การนั่งช้างชมบรรยากาศของไร่องุ่น รอบละ 15 นาที รวมทั้งการบริการจักรยานปั่นรอบไร่องุ่น นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ ชื่อ เดอะศาลา ตั้งที่อยู่บนเนินเขา ให้ได้นั่งทานข้าวเคล้าทัศนียภาพสวย ๆ

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.30-18.30 น.
          ที่อยู่ : 1 ม. 9 บ.คอกช้างพัฒนา ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
          โทรศัพท์ : 08 1701 0222



16. ตลาดฉัตรศิลา


          สถานที่ท่องเที่ยวและช้อปปิ้งแห่งใหม่ใจกลางเมืองหัวหิน ในบรรยากาศย้อนยุควันวาน พร้อมด้วยการเยี่ยมชมบังกะโลเก่าแก่อายุกว่า 50 ปี ที่ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 7 เพลิดเพลินกับกิจกรรมการแสดงพื้นบ้าน ณ บริเวณลานแสดงของที่ว่าการฉัตรศิลา ทุกวันศุกร์, เสาร์ และอาทิตย์ อีกทั้งยังมีการช้อบปิ้งของฝากและชิมในแบบการท่องเที่ยวชิล ๆ ในบริเวณจัดแสดงสินค้าทุกวัน ชื่นชมผลงานการแสดงเปิดหมวกทั้งเด็กนักเรียนและระดับมืออาชีพ

          ที่อยู่ : ถ.เพชรเกษม อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
          โทรศัพท์ : 08 0659 6366
        


17. Black Mountain Water Park


          Black Mountain Water Park เป็นสวนน้ำในหัวหินที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด ด้วยการมาพร้อมกับอุปกรณ์เครื่องเล่นอันทันสมัย คุณภาพเยี่ยม โดดเด่นด้วยหอคอยสูง 17 เมตร และเครื่องเล่นสไลเดอร์อันน่าตื่นเต้นกว่า 9 แบบ รวมไปถึง Wave Pool, Lazy River, ชายหาดเทียม, สวนน้ำสำหรับเด็ก ที่จะมาร่วมสร้างคลื่นยักษ์ให้คุณได้สุดเหวี่ยงไปกับท้องทะเลในฝัน เปลี่ยนวันธรรมดาของคุณให้กลายเป็นวันสนุกกับสวนน้ำที่ดีที่สุด เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับพาเด็ก ๆ มาเล่นน้ำคลายร้อน

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-17.00 น.และวันเสาร์ เปิดช่วงกลางคืน เวลา 18.00-21.00 น.
          อัตราค่าเข้าชม : เด็กอายุ 5-12 ปี ราคา 300 บาท และผู้ใหญ่ ราคา 600 บาท
          ที่อยู่ : อยู่ถนนบายพาสชะอำ-หัวหิน กิโลเมตรที่ 25 อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
          โทรศัพท์ : 09 0446 6129, 0 3261 8444 และ 0 3261 8445
          


18. ทวิมุข สปอร์ต คอมเพล็กซ์


          ทวิมุข สปอร์ต คอมเพล็กซ์ สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาอย่างครบครัน ทั้งโรงแรมที่พัก, ร้านอาหาร และสนามกีฬาต่าง ๆ เช่น เทนนิส, แบดมินตัน, เทนนิส และฟิตเนส ซึ่งภายในมีอาคารสำหรับจัดมุมภาพแกลลอรี่ที่บอกเล่าถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในอำเภอหัวหิน ห้องไวน์ซึ่งมีหลากหลายรสชาติให้ท่านได้เลือกชิมลิ้มรสกันอย่างถูกใจ ห้องอาหาร พร้อมฟังเพลงและดนตรีไพเราะจับใจ แต่ถ้าใครที่อยากเที่ยวชมทัศนียภาพและเรื่องราวของเมืองหัวหิว ที่นี่ก็มีรถรางท่องเที่ยวคอยรับ-ส่ง พร้อมด้วยไกด์บรรยายเชิงประวัติศาสตร์ให้ได้สัมผัสกับกลิ่นอายทะเลและสถานที่สำคัญ ๆ ของเมืองหัวหินอีกด้วย

          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการตั้งแต่ เวลา 09.00-10.00 น.
          ที่อยู่ : 32/31 ถ.เพชรเกษม ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
          โทรศัพท์ : 0 3252 2844

          
          จุใจกับแหล่งท่องเที่ยวหัวหินสุดฮิตที่เรานำมาฝากกันแล้วใช่ไหมล่ะคะ ถ้าใครมีโอกาสไปเที่ยวที่อำเภอหัวหินก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวกันนะ รับรองว่าคุณจะได้พักผ่อนแบบหลากหลายรูปแบบ แถมแหล่งท่องเที่ยวที่ว่าก็อยู่ไม่ไกลกันมากด้วย


หมายเหตุ : ข้อมูลและราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวสอบกับทางสถานที่ต่าง ๆ


อ่านเพิ่มเติม »

ท่องเที่ยวไทย 20 ตลาดน้ำสุดฮิต ไปสัมผัสวิถีชีวิตริมน้ำ



ขึ้นชื่อว่า ตลาดน้ำ หลายคนก็คงน้ำถึงความเจริญของชุมชนในสมัยก่อน เป็นมุมมองของวิถีชีวิตริมน้ำได้ลองชมและสัมผัสกับความหลากหลายของตลาดน้ำ ซึ่งเปิดให้เหล่าคนที่รักการช้อป การชิม และการท่องเที่ยวเพลิดเพลินใจกับความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครได้เป็นอย่างดี ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีตลาดน้ำผุดขึ้นเป็นจำนวนมาก จนไม่รู้จะเลือกไปทางไหนดี วันนี้กระปุกท่องเที่ยวเลยขอแนะนำตลาดน้ำที่ขึ้นชื่อว่าเป็นที่สุด 20 อันดับต้น ๆ ของตลาดน้ำสุดฮอตมาบอกกัน เอ้า! พร้อมแล้วใช่ไหมค่ะ ถ้าอย่างนั้นเราไปเริ่มต้นกับตลาดน้ำแห่งแรกกันเลย


 1. ตลาดน้ำขวัญเรียม (วัดบำเพ็ญเหนือ-วัดบางเพ็งใต้)


ตลาดน้ําขวัญเรียม

ตลาดน้ําขวัญเรียม

           ตลาดน้ำขวัญเรียม เมื่อได้ยินชื่อหลายคนอาจจะนึกถึงนวนิยายเรื่องขวัญเรียม เพราะที่นี่ถือเป็นต้นกำเนิดนิยายรักเรื่องนี้ เลยค่ะ โดยตลาดแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในตลาดน้ำที่เกิดขึ้นเพื่อย้อนรอยวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนริมคลองแสนแสบ จำลองวิถีชีวิตของคนสมัยก่อน ด้วยความสามัคคีของคนในชุมชน ทำให้ที่นี่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

           ส่วนไฮไลท์ของ ตลาดน้ำขวัญเรียม คือ การตักบาตรทางน้ำ ที่ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาอย่างยาวนานของคนชุมชนทั้งสองวัด ซึ่งนอกจากการตักบาตรในตอนเช้าแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมอื่นอีกมากมาย อาทิ การแสดงการละเล่นของไทย ที่เวทีริมน้ำ, การล่องเรือสัมผัสชีวิตชุมชน พร้อมไกด์ตัวน้อยที่จะมาเล่าความเป็นมาของตลาดน้ำขวัญเรียม, การจัดแสดงสัตว์บกและสัตว์น้ำ รวมถึงเพลิดเพลินไปกับเมนูอร่อยที่หลากหลายอีกด้วย

           การเดินทาง

           เส้นทางแรก ถนนสุขาภิบาล 2 (เสรีไทย) รถเมล์ 27 ปอ.502 รถยนต์ส่วนตัว มีสถานที่จอดรถ วิ่งตรงมาจาก The Mall บางกะปิ ผ่านสวนสยามจะเจอปากทางเข้าวัดเลี้ยวเข้ามาวัดบำเพ็ญเหนือ ทางด้านขวาต้องไปเลี้ยวกลับ

           เส้นทางที่ 2 ถนนสุขาภิบาล 3 (รามคำแหง) รถเมล์ 113 58 ปอ. 113 514


           ที่อยู่ : วัดบำเพ็ญเหนือ ซอยเสรีไทย 60 และ วัดบางเพ็งใต้ ซอยรามคำแหง 187
           โทรศัพท์ : 087 701 2878
           วันเวลาเปิดทำการ : วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น. (ตักบาตรพระทางน้ำเริ่ม 07.00 น.)
           เว็บไซต์ : kwan-riamfloatingmarket.com และ เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำขวัญเรียม
 2. ตลาดน้ำอัมพวา
ตลาดน้ำ

           ตลาดน้ำอัมพวา เป็นตลาดเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดในสมุทรสงคราม ซึ่งความเจริญทางด้านถนนหนทางไม่ได้มีผลกับชาวบ้านแต่อย่างใด เพราะที่นี่ยังคงอนุรักษ์รูปแบบการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนของตนไว้อย่างสมบูรณ์เสมอ โดยในปัจจุบันตลาดน้ำอัมพวามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันมาอย่างไม่ขาดสาย จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่าเป็นไฮไลท์หลัก คือ ที่พักในรูปแบบโฮมสเตย์ การล่องเรือชมหิ่งห้อยในยามค่ำคืน ทำให้ร้านที่จำหน่ายสินค้าในตลาดน้ำส่วนใหญ่จะมีบริการบ้านพักแบบโฮมสเตย์รวมอยู่ด้วย ส่วนสินค้าที่ขึ้นชื่อของที่แห่งนี่จะเป็นอาหาร ของฝาก ของที่ระลึกที่มีทั้งแบบพายเรือมาขายอยู่ในลำคลอง และแบบเปิดร้านอยู่บนฝั่งก็มี การได้ลองชม-ชิมอาหารพื้นบ้านที่หลากหลาย

           การเดินทาง

           ทางรถยนต์ : จากตัวจังหวัดใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 325 ทางเดียวกับไปอำเภอดำเนินสะดวกและอุทยาน ร.2 ประมาณ 6 กม. ก่อนถึงสามแยกไฟแดง มีทางแยกทางซ้ายเข้าอำเภออัมพวา ไปอีกประมาณ 800 เมตร ทางแยกซ้ายมือ เข้าตลาดอัมพวา จอดรถบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภออัมพวา

           รถประจำทาง : จากสถานีขนส่งสายใต้ รถสาย 996 กรุงเทพฯ-ดำเนินฯ เป็นรถปรับอากาศ ผ่านจังหวัดสมุทรสงคราม ถึงตลาดอัมพวา, สาย 976 กทม.-สมุทรสงคราม ถึงสถานีขนส่งสมุทรสงคราม ขึ้นรถประจำทางสาย 333 แม่กลอง-อัมพวา-บางนกแขวก ถึงตลาดอัมพวา

           รถตู้ : ขึ้นที่อนุสาวรีย์ชัยฝั่งถนนพหลโยธินใต้ทางด่วน เป็นรถตู้สาย กทม.-แม่กลอง ตั้งแต่ 06.25-20.00 น. ลงที่ตลาดแม่กลอง แล้วเดินมาแถวตลาดจะมีคิวรถสองแถวสายที่ไปโรงเจตรงตลาดน้ำอัมพวา ค่ารถ 10 บาท ขากลับตั้งแต่ 05.30-19.00 น. (รถจอดแถวตลาดแม่กลอง)

          ที่อยู่ : อยู่บริเวณหน้าวัดอัมพวัน อำเภออัมพวา สมุทรสงคราม
          วันเวลาเปิดทำการ : ทุกวันศุกร์-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น.
          โทรศัพท์ : ประชาสัมพันธ์จังหวัด 0 3471 4881

 3. ตลาดน้ำทุ่งบัวชม

ตลาดน้ำ

ตลาดน้ำ

          สำหรับ ตลาดน้ำทุ่งบัวชม ถือเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่อีกหนึ่งโครงการ โดยมีแนวคิดผสมผสานระหว่างสมัยเก่าย้อนยุคกับแนวคิดร่วมสมัย บนเนื้อที่กว่า 18 ไร่ ในอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ติดถนนพหลโยธิน เส้นทางที่มุ่งหน้าเข้าสายอีสานถนนมิตรภาพ แถมยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นความภูมิใจของชาวอยุธยา เพราะที่นี่ได้รวมสินค้าที่เป็นของดีสี่ภาค ของขึ้นชื่อ รวมไปถึงของฝากจากอยุธยาหลากหลายรายการมาให้เลือกกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทั้งทางด้านวิถีชีวิต ศิลปะ และวัฒนธรรม ที่เน้นความงดงามด้านสถาปัตยกรรม การตกแต่งร้านค้า รวมไปถึงการแต่งกาย

          ส่วนของฝากยอดฮิตของที่นี่ คือ สินค้า Handmade อย่างปลาตะเพียนใบลาน ตุ๊กตาชาววัง งอบ บ้านเรือนไทยจำลอง มีดอรัญญิก หม้อดินเผา หินแกะสลัก ผลิตภัณฑ์จากศูนย์ศิลปาชีพบางไทร สินค้า OTOP เครื่องประดับ เครื่องจักสาน สินค้าหัตถกรรม เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และสินค้าต่าง ๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังมีการแสดงและการละเล่นพื้นบ้านที่หาดูได้ยากในปัจจุบันอีกด้วย

          การเดินทาง 

          ใช้ถนนพหลโยธิน (ขาออก) มุ่งหน้าอำเภอหนองแค ผ่านร้านข้าวแกงบ้านสวน สาขา 2 ไปประมาณ 1 กิโลเมตร ตลาดน้ำทุ่งบัวชม ตั้งอยู่ติดกับปั๊มน้ำมัน ปตท. บริเวณกิโลเมตรที่ 78 ทางด้านซ้ายมือ

          ที่อยู่ : พหลโยธิน กม.78 ถนนวังน้อย-สระบุรี อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
          วันเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 0.900-20.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 3572 3127
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำทุ่งบัวชม 



  4. ตลาดน้ำอโยธยา

          ถ้าพูดถึงชื่อของ ตลาดน้ำหมู่บ้านปางช้างอโยธยา หลายคนคงไม่คุ้นหู แต่ถ้าเรียกว่า ตลาดน้ำอโยธยา ทุกคนก็คงอ๋อไปตาม ๆ กัน ซึ่งที่ตั้งชื่อนี้ก็เพราะที่นี่ตั้งอยู่บริเวณหมู่บ้านช้าง ใกล้ ๆ กับวัดมเหยงคณ์ ตำบลไผ่ลิง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยที่ใหญ่ที่สุดในระดับจังหวัดอีกด้วย ทางด้านบรรยากาศภายในตลาดน้ำอโยธยานั้น โอบล้อมไปด้วยสายน้ำเย็นฉ่ำ มีระเบียงริมน้ำให้นักท่องเที่ยวนั่งหย่อนขาสัมผัสสายน้ำให้ชื่นใจ

          นอกจากนี้ สำหรับคนที่ชอบช้อปปิ้ง ก็อย่าลืมแวะเวียนเลือกซื้อเลือกหาสินค้าดีไซน์แปลก ๆ ประเภทงาน Handmade ได้อีกด้วย ซึ่งที่นี่ทั้งพ่อค้าและแม่ขายต่างต้องแต่งกายแบบย้อนยุค คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง พร้อมกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบไทย ๆ ที่เรียบง่าย นับเป็นจุดศูนย์รวมนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่จะได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศ และทัศนียภาพอันงดงามที่เป็นเอกลักษณ์ของคนไทยอีกด้วย

          
การเดินทาง 

          ใช้ทางหลวงหมายเลข 32 หรือถนนสายเอเชียจะเห็นอยุธยาปาร์ค เลี้ยวซ้ายเข้าเมืองพระนครศรีอยุธยาแล้วขับไปจนเจอวงเวียนเจดีย์วัดสาม ให้วนตามวงเวียนไปออกทางขวามือ มุ่งหน้าวัดอโยธยา ตลาดน้ำอโยธยาอยู่ก่อนวัดอโยธยา ทางเข้าตลาดน้ำอโยธยาอยู่ขวามือมีซุ้มไม้สีดำขนาดใหญ่

          ที่อยู่ : 65/12 หมู่ 7 ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา
          วันเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 3588 1678
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำอโยธยา



 5. ตลาดน้ำคลองลัดมะยม 

ตลาดน้ำ

          ในเขตตลิ่งชันนอกจากจะมี "ตลาดน้ำตลิ่งชัน" ที่เป็นตลาดน้ำชื่อดังแล้ว ยังมีตลาดน้ำอีกแห่งหนึ่งในเขตตลิ่งชันที่แม้จะมีขนาดเล็กกว่า แต่ก็มีความน่าสนใจไม่น้อยกว่าตลาดน้ำตลิ่งชันสักเท่าไหร่ นั่นก็คือ "ตลาดน้ำคลองลัดมะยม" ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับถนนกาญจนาภิเษก ไฮไลท์สำคัญของที่นี่นอกจากพ่อค้าแม่ค้าจะขายอาหาร-ขนมบนเรือแล้ว ที่นี่ยังมีเครื่องปั้นดินเผา สวนเจียมตน ที่เปรียบเสมือนห้องเรียนธรรมชาติให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าศึกษาวิถีชีวิตชาวสวนแบบดั้งเดิม ร้านขายของที่ระลึก และผลไม้จากสวนสด มาวางขายในราคาเป็นกันเองอีกด้วย

          การเดินทาง 

          เดินทางโดยรถเมล์ สามารถขึ้นรถเมล์ยูโรสาย 79 จากหน้ากองสลาก รถจะผ่านหน้าสำนักงานเขตตลิ่งชัน

          ที่อยู่ : ถนนบางระมาด แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
          วันเวลาเปิดทำการ : วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ตลาดนัดคลองมะยม 


 6. ตลาดน้ำดำเนินสะดวก

ตลาดน้ำ

          ตลาดน้ำดำเนินสะดวก หรือที่รู้จักกันทั่วไปในนาม ตลาดน้ำคลองต้นเข็ม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากของราชบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ราว 80 กิโลเมตร มีต้นกำเนิดจากสายพระเนตรที่ยาวไกลของรัชกาลที่ 4 ที่ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองดำเนินสะดวก ระยะทางกว่า 32 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมแม่น้ำแม่กลองที่บางนกแขวก กับแม่น้ำท่าจีนที่ประตูน้ำบางยาง และมีคลองซอยเล็ก ๆ มากมาย ทำให้ชาวบ้านในราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร สามารถติดต่อกันทางน้ำได้สะดวก ซึ่งในปัจจุบันที่นี้ยังคงเป็นสถานที่ที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติตั้งแต่ช่วงเวลาเช้าตรู่ เพราะจะมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าพายเรือนำสินค้ามาขายกันอย่างคึกคัก ทั้งอาหาร ผลไม้ และของที่ระลึกต่าง ๆ อีกมากมาย รวมถึงสินค้าหัตถกรรม ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ

          นอกจากนี้ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ยังมีบริการเรือเช่านำเที่ยว เพื่อไปชมสวน ดูการทำน้ำตาลสด โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอำเภอดำเนินสะดวก ห่างจากตลาดน้ำดำเนินสะดวกออกมาประมาณ 1 กิโลเมตร

          การเดินทาง

          เดินทางไปตามถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านบางแค สวนสามพราน นครชัยศรี นครปฐม เลยกิโลเมตรที่ 83 ไปเล็กน้อย จะพบแยกบางแพ เลี้ยวซ้ายมือไปตามทางหลวงหมายเลข 325 อีกประมาณ 25 กิโลเมตร ข้ามสะพานธนะรัชต์เลยไป 200 เมตร แล้วแยกขวาเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร

          เดินทางไปตามสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) ระยะทาง 63 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 325 ผ่านตัวเมืองสมุทรสงคราม แล้วเลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 325 ไปประมาณ 12 กิโลเมตร ทางเข้าตลาดน้ำอยู่ก่อนถึงสะพานธนะรัชต์ 200 เมตร และแยกซ้ายเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร

          ที่อยู่ : อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี
          วันเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน จะเริ่มค้าขายกันตั้งแต่ 05.00-12.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 3224 1023


 7. ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

           ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง จัดตั้งขึ้นจากการร่วมมือระหว่าง องค์การบริการส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง และชาวบ้านในชุมชน ด้วยการสร้างตลาดน้ำแห่งนี้เพื่อหาทางแก้ไขภาวะผลผลิตล้นตลาด ซึ่งตลาดน้ำแห่งนี้ก็ได้สร้างงานและสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้เป็นอย่างดี รวมถึงในพื้นที่แห่งนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของชาวไทยเชื้อสายมอญ ที่ส่วนใหญ่แล้วประกอบอาชีพเกษตรกรรมอีกด้วย

          โดยส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวจะได้สนุกสนานไปกับการชมและชิมผลไม้คุณภาพจากทั้งสองฝั่งคลอง เพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับการช่วยเหลือเกษตรกร อีกทั้งสามารถเลือกซื้อสินค้า อาหารที่ขึ้นชื่อของตลาดน้ำแห่งนี้ เช่น ห่อหมกหมู ไก่สะเต๊ะ หอยทอดขนมครก และผลิตภัณฑ์ของชาวบ้าน อาทิ ดอกไม้จากเกล็ดปลา ธูปสมุนไพร พร้อมช้อปสินค้าคุณภาพ OTOP

          การเดินทาง
          รถยนต์ : ลงจากทางด่วน (ดาวคะนอง-สุขสวัสดิ์) ที่ถนนสุขสวัสดิ์ จะเห็นสามแยกพระประแดง-สุขสวัสดิ์ เลี้ยวบริเวณข้างปั๊มน้ำมัน BP พอถึงตลาดพระประแดงให้เลี้ยวซ้ายผ่านวัดทรงธรรมวรวิหาร ไปตามถนนเพชรหึงษ์ ประมาณ 5 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าซอยเพชรหึงษ์ 26 แล้วจะพบป้ายบอกทางเข้าตลาดน้ำ ประมาณ 700 เมตร

          รถโดยสาร : มีทั้งรถโดยสารประจำทางแบบปรับอากาศและธรรมดา สาย 82, 138 รถร่วมบริการสาย 6 ไปลงตลาดพระประแดง แล้วต่อรถประจำทางสายพระประแดง-บางกอบัว ก็จะผ่านตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

          ที่อยู่ : วัดบางน้ำผึ้งใน อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
          วันเวลาเปิดทำการ : วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น.
          โทรศัพท์ : สำนักงานองค์การบริการส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง 0 2819 6762 และ 08 1171 4930
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง
 


  8. ตลาดน้ำตลิ่งชัน

ตลาดน้ำ

          วิถีชีวิตริมฝั่งคลอง คือ มนต์เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ใครหลายคนอยากจะมีโอกาสไปสัมผัสสักครั้ง อย่าง ตลาดน้ำตลิ่งชัน สถานท่องเที่ยวที่ควรจะไปสัมผัสกับตลาดที่เป็นแบบกึ่งชนบท ที่ผสมผสานวิถีชีวิตริมสายน้ำเข้าด้วยกัน อีกทั้งที่นี่ยังเป็นสถานที่รับสนองแนวพระราชดำริของในหลวง ถึงเรื่องของความพอเพียง และด้วยความหลากหลายของอาหารที่ปรุงรสพร้อมเสิร์ฟเสร็จสรรพจากเรือที่สัญจรทางน้ำมากมาย ทำให้อดใจไม่ได้ที่จะต้องค้นหาอาหารยอดนิยมของที่นี่ นั่นก็คือ ก๋วยเตี๋ยวเรือ อาหารทานเล่นง่าย ๆ แต่อิ่มท้องอย่างหมูสะเต๊ะกับน้ำจิ้มรสเด็ดเป็นตัวชูโรง พร้อมด้วยกิจกรรมอีกหลากหลาย เช่น การลองนั่งเรือทัวร์คลอง ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ชมวิถีชีวิตริมสายน้ำ ผสมผสานความงามของวัดวาอาราม ที่รับรองได้ว่ามาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน

          การเดินทาง 

          จากถนนจรัญสนิทวงศ์เลี้ยวเข้าแยกบางขุนนนท์ไปตามเส้นทางหลัก เมื่อถึงแยกตลิ่งชันให้เลี้ยวซ้าย ขับไปตามทางหลักเรื่อย ๆ จะเห็นป้ายสำนักงานเขตตลิ่งชันอยู่ด้านหน้า และหากมาทางถนนบรมราชชนนี ผ่านสายใต้ใหม่ จะเห็น สน.ตลิ่งชัน อยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้าซอยนั้นและขับมาตามทางหลักเรื่อย ๆ จะเห็นป้ายสำนักงานเขตตลิ่งชันอยู่ทางขวามือ ซึ่งมีที่จอดรถให้บริการ รวมทั้งมีรถเมล์สาย 79, 83 ผ่าน

          ที่อยู่ : ตั้งอยู่บริเวณหน้าสำนักงานเขตตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
          วันเวลาเปิดทำการ : วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดเทศกาล ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 2424 5448, 08 1701 2565
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำตลิ่งชัน 


 

 9. ตลาดน้ำสี่ภาค
ตลาดน้ำ

         ตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชนชาวไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งรวบรวมความหลากหลายทั้งทางด้านวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยทั้ง 4 ภาคไว้ด้วยกัน เรียกได้ว่า ตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

         ตลาดน้ำสี่ภาค เป็นการให้ผู้คนได้สัมผัสความเป็นไทย ๆ ด้วยการจำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไทยที่เรียบง่าย เพื่อให้ผู้คนได้เรียนรู้วิถีพอเพียงดั้งเดิมที่ผูกพันกับสายน้ำตั้งแต่อดีต สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลใน 4 ภาคของประเทศไทย โดยนำเอาของดีของเด่นทั้ง 4 ภาค มารวมไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว อีกทั้งที่นี่นอกจากจะเดินเที่ยวชิล ๆ แล้ว ยังมีการล่องเรือเที่ยวชมตลาดด้วยเช่นกัน

         การเดินทาง

         ถนนมอเตอร์เวย์ เส้นทางมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี (สายใหม่) ต่อเชื่อมกับถนนวงแหวนรอบนอก มีทางขึ้นหลายจุด  เช่น ถนนรามอินทรา ก่อนถึงแฟชั่นไอร์แลนด์ สุดถนนพระราม 9 ตัดกับถนนศรีนครินทร์ หรือจากสายบางนา-ตราด เมื่อผ่านแยกถนนศรีนครินทร์มาแล้วพอสมควร จะมีทางแยกเข้าถนนวงแหวนรอบนอก แล้วมาเข้ามอเตอร์เวย์ได้เช่นกัน และเมื่อออกจากมอเตอร์เวย์ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 7 จนไปพบกับทางหลวงหมายเลข 36 ที่แยกบ้านกระทิงลายก่อนถึงพัทยา

          ถนนบางนา-ตราด เส้นทางสายบางนา ตราด (ทางหลวงหมายเลข 34) จากบางนาเข้าสู่ย่านบางพลี ผ่านแม่น้ำบางประกง จนเข้าสู่ตัวจังหวัดชลบุรี ระยะทางประมาณ 81 กิโลเมตร ถ้าจะไม่เข้าตัวเมืองก็มีเส้นทางบายพาสเลี่ยงเมืองแล้วมาพบกับทางหลวงหมายเลข 3 หรือถนนสุขุมวิท ไปตามเส้นทางนี้จะผ่านบางแสน บางพระ ศรีราชา แหลมฉบัง และก็จะเข้าสู่เขตเมืองพัทยา


         ที่อยู่ : 451/304 ถนนสุขุมวิท ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
         วันเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-24.00 น. แต่สำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีการแสดงของแต่ละภาค วนไปตามซุ้มต่าง ๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยวรับชม
         โทรศัพท์ : 0 3870 6340
          เว็บไซต์ : pattayafloatingmarket.com 



  10. ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม

ตลาดน้ำ

          ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม เป็นตลาดน้ำในบรรยากาศรัตนโกสินทร์ย้อนยุคสมัยรัชกาลที่ 6 ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์หัวหิน ที่เน้นโทนสีขาวและแดง คล้าย ๆ สถานีรถไฟหัวหิน ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ มีร้านค้าทั้งหมด 193 ร้าน และเรือขายสินค้า 40 ลำ อีกทั้งตลาดยังถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขาและติดแหล่งน้ำธรรมชาติอย่าง "ลำห้วยสามพันนาม" จึงทำให้มีบรรยากาศเย็นสบาย ร่มรื่น เป็นธรรมชาติในแบบที่ไม่ต้องปรุงแต่งมากนัก แถมยังมีการแสดง โชว์แสง สี เสียง อันตระการตาให้ชมทุกวัน

          การเดินทาง 


          การเดินทางไปตลาดน้ำหัวหินสามพันนามใช้เส้นทางเดียวกับวัดห้วยมงคล โดยปากทางเข้าอยู่ฝั่งตรงข้ามกับซอยปากทางเข้าวัดห้วยมงคล มีป้ายบอกตลอดทาง

          ที่อยู่ : 88/8 หมู่ 13 ถนนหนองหอยทับใต้ ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
          วันเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน วันธรรมดาเปิดเวลา 09.00-20.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 09.00-21.00 น.
          โทรศัพท์ : 08 1457 8888, 08 0240 5555
          เว็บไซต์ : huahinsamphannamfloatingmarket.com 


  11. ตลาดน้ำดอนหวาย
ตลาดน้ำ

ตลาดน้ำ

          ตลาดดอนหวาย ตั้งอยู่หลังวัดดอนหวาย ริมแม่น้ำท่าจีน ตำบลบางกระทึก อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เป็นตลาดที่ยังเหลือสภาพตลาดเก่าในอดีตสมัยรัชกาลที่ 6 ที่มีให้เห็นลักษณะตัวอาคารเป็นอาคารไม้เก่า ๆ ที่อยู่ติดริมแม่น้ำท่าจีน มีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือนำสินค้าและอาหารมาจำหน่ายมากมาย เช่น เป็ดพะโล้, ขนมไทย, ห่อหมกยักษ์ และสละทรงเครื่อง ฯลฯ ทั้งนี้ ในบริเวณวัดดอนหวายยังมีตลาดนัดสินค้าทางการเกษตรจำหน่ายทุกวันอีกด้วย

          การเดินทาง

          รถยนต์ : เส้นทางแรก จากกรุงเทพฯ สามารถใช้เส้นทางสายถนนเพชรเกษม (สายเก่า) ทางเข้าตลาดดอนหวายจะอยู่เยื้องกับทางเข้าของลานแสดงช้างและฟาร์มจระเข้สามพราน ใช้ทางเข้าทางเดียวกับวัดไร่ขิงแล้วตรงไปประมาณ 10 กิโลเมตร ผ่านวัดไร่ขิง วัดท่าพูด ตลาดดอนหวายจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ, เส้นที่สอง จากถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี (สายใหม่) เข้าทางพุทธมณฑลสาย 5 ซ้ายมือมีป้ายบอกทางไปวัดไร่ขิง เข้าไปประมาณ 4 กิโลเมตร ไม่ไกลนักจะมีป้ายวัดไร่ขิง ป้ายที่ 2 ให้เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 4.5 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายตรงทางสามแยกไปตลาดน้ำดอนหวายตลาดจะอยู่ทางซ้ายมือ

          รถโดยสารประจำทาง : นั่งรถโดยสารประจำทางปรับอากาศชั้น 2 จากสถานีขนส่งสายใต้ สายเก่า (กรุงเทพฯ-อ้อมใหญ่-สามพราน- นครปฐม) กรุงเทพฯ-ราชบุรี กรุงเทพฯ- บางลี่ กรุงเทพฯ- สุพรรณบุรี ลงปากทางเข้าวัดไร่ขิงแล้วต่อรถโดยสารประจำทางเข้าไป ตลาดดอนหวายจะอยู่เลยวัดไร่ขิงไปประมาณ 10 กิโลเมตร

 
         ที่อยู่ : ตำบลบางกระทึก หลังวัดดอนหวาย จังหวัดนครปฐม
          วันเวลาเปิดทำการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.
          โทรศัพท์ : ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม 0 3434 0011-2
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำวัดดอนหวาย 


 12. ตลาดน้ำหัวหิน


ตลาดน้ำ

ตลาดน้ำ

          ตลาดน้ำหัวหิน เป็นตลาดน้ำที่ประยุกต์ระหว่างวิถีชีวิตของผู้คนในอดีต ให้เข้ากับการท่องเที่ยวในปัจจุบัน โดยมีคอนเซ็ปต์ คือ แปลกใหม่ ยิ่งใหญ่ หรูหรา บนเนื้อที่กว่า 40 ไร่ อีกทั้งยังสวยงามด้วยสถาปัตยกรรม และการตกแต่งสไตล์หัวหินย้อนยุค รวมถึงความหลากหลายของสินค้าจากร้านค้าต่าง ๆ ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า งานฝีมือเย็บปักถักร้อยสุดประณีต ของที่ระลึกเก๋ ๆ ที่ไม่ซ้ำซากจำเจ นอกจากนี้ ยังมีโชว์การแสดง แสง สี เสียง และกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ ร่วมถ่ายรูปกับฟาร์มแกะ ป้อนอาหารปลาคาร์ฟสีสวยด้วยขวดนม พายเรือชมความงามของอาคารสุดคลาสสิก

          การเดินทาง

          จากถนนเพชรเกษม เลี้ยวเข้าสู่ถนนหัวนา-ทับใต้ ตรงไปแล้วเลี้ยวเข้าซอยหัวหิน 112 จะพบตลาดน้ำหัวหินอยู่ภายในซอยหัวหิน 112

          ที่อยู่ : 99/9 ซอยหัวหิน 112 อาคาร ใกล้กับวัดทับใต้ ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
          วันเวลาเปิดทำการ : วันจันทร์-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 09.30-19.30 น. ส่วนวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 09.30-20.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 3282 7888, 08 1197 7774, 08 4314 4449, 08 4315 5550, 08 9258 8884
          เว็บไซต์ : huahinfloatingmarket.com
 


 13. ตลาดน้ำลำพญา

ตลาดน้ำลำพญา

          เป็นตลาดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำนครชัยศรี (แม่น้ำท่าจีน) อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาทีก็ถึงแล้ว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้ที่นิยมชมชอบกับบรรยากาศธรรมชาติริมน้ำ รวมทั้งชมปลานานาชนิดนับแสนตัวแหวกว่ายรอนักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัส ตลอดเส้นทางเมื่อท่านเดินทางเข้าสู่เขตอำเภอบางเลนท่านจะได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในย่านนี้ได้เป็นอย่างดี จากสองฝั่งถนนเป็นทุ่งนา ไร่ สวนที่เรียงรายสลับกันไป บ่งบอกถึงความเป็นอยู่ในละแวกนี้

          ซึ่งส่วนใหญ่ที่นี่มีอาชีพทำการเกษตรปลูกพืชผักผลไม้ เมื่อเดินทางถึงตลาดน้ำวัดลำพญา ความประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่สัมผัสได้ นอกจากบรรยากาศของต้นไม้น้อยใหญ่ที่ให้ความร่มเย็นแล้วยังมีรอยยิ้มของผู้คนที่เดินผ่านไปมา และบรรยากาศการค้าขายที่คึกคักเป็นกันเองของแม่ค้าจำนวนมาก ที่ตั้งอยู่บริเวณริมเขื่อนชายแม่น้ำและในแพทางเดินตลอดริมแม่น้ำหน้าวัดลำพญา

          การเดินทาง
          รถยนต์ : เส้นทางแรกสายปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ขับตรงไปจนถึงบริเวณสะพานลอยเข้าสู่ศาลายา เลี้ยวขวาขึ้นสะพานและขับตรงไป ผ่านมหาวิทยาลัยมหิดลแล้วเลี้ยวซ้าย ผ่านหน้าที่ว่าการอำเภอพุทธมณฑล ถึงสถานีตำรวจพุทธมณฑลแล้วให้เลี้ยวขวาขับรถตรงไปอีกประมาณ 24 กิโลเมตร ก็จะพบวัดลำพญาอยู่ทางซ้ายมือ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที และเส้นทางที่สอง ใช้เส้นทางสายบางบัวทอง ขับตรงไปประมาณ 10 กิโลเมตร ให้สังเกตป้ายเข้าสู่อำเภอบางเลนด้านซ้ายมือ แล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปอีกประมาณ 20 กิโลเมตร จะพบทางแยกซ้ายมืออีกครั้ง (ก่อนข้ามสะพานแม่น้ำท่าจีน) ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 9 กิโลเมตร ก็จะพบวัดลำพญาอยู่ทางขวามือ

          รถโดยสารประจำทาง : บริษัท ขนส่ง จำกัด มีบริการรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-นครปฐม โดยให้มาลงที่ตัวตลาด แล้วจากนั้นให้นั่งรถสองแถวสายนครปฐม-ลำพญา ให้ลงที่หน้าวัดลำพญา หรือจะขึ้นที่ตลาดตัวเมืองนครปฐม สายลำพญา-ทุ่งน้อย มาลงที่หน้าวัดลำพญาโดยตรง


          ที่อยู่ : วัดลำพญา ตำบลลำพญา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม
          วันเวลาเปิดทำการ : วันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
          โทรศัพท์ : 08 1721 4874, 08 1659 7371, 08 1763 4179
          เว็บไซต์ : lumphaya.com 



 14. ตลาดน้ำบางน้อย

 ตลาดน้ำบางน้อย

          ตลาดน้ำบางน้อย เป็นตลาดน้ำที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงคราม อยู่ปากคลองที่เชื่อมกับแม่น้ำแม่กลองเหมือนกับตลาดน้ำอัมพวา ที่เน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้วยการคงเอกลักษณ์ของห้องไม้เรียงแถวเก่า ๆ บ้านที่ยังคงสภาพจริงเหมือนที่เคยเป็นมาในอดีต เน้นการค้าขายที่เป็นกันเอง ด้วยการแวะชม ชิม อาหาร พร้อมช้อปของฝาก นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะ (บ้านไหพันใบ) สถานที่เก็บวัตถุโบราณ เช่น เครื่องปั่นดินเผาแบบต่าง ๆ ที่จมอยู่ในแม่น้ำและมีคนงมขึ้นมาขาย เก็บสะสมไว้และได้เปิดในผู้ที่มาเยี่ยมตลาดได้มาชมและศึกษากัน นอกจากการท่องเที่ยวชม ชิม เดินชิลแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ คือ ตลาดผลไม้สด ๆ จากสวนของชาวบ้าน ที่นำมาวางขายในราคาย่อมเยาเลยล่ะคะ

          การเดินทาง 

          ตลาดน้ำบางน้อยอยู่บริเวณท่าน้ำวัดเกาะแก้ว มีลานจอดรถขนาดใหญ่ของวัด อยู่บนเส้นทางเข้าเมืองสมุทรสงคราม ใช้เส้นทางเดียวกันกับตลาดน้ำอัมพวา ถึงแยกเข้าอัมพวาตรงไปอีก ประมาณ 5 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้า สส.6002 (ทางไปบางคนที) ถึงแยกไฟแดงเลี้ยวขวาเล็กน้อยก็เป็นทางเข้าวัดเกาะแก้ว

          ที่อยู่ : ปากคลองบางน้อย หน้าวัดเกาะแก้ว ตำบลกระดังงา อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
          วันเวลาเปิดทำการ : ทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-1500 น.
          โทรศัพท์ : สำนักงานเทศบาลตำบลกระดังงา 0 3476 1537 ต่อ 105 ในเวลาราชการ
          เว็บไซต์ : 
www.bangnoi.com
          
          
  15. ตลาดน้ำคลองแห

ตลาดน้ำ

          ตลาดน้ำคลองแห เป็นตลาดน้ำเชิงวัฒนธรรมแห่งแรกและแห่งเดียวของภาคใต้ ผสมผสานระหว่างตลาดที่จำหน่ายสินค้าในเรือและตลาดโบราณ ที่เน้นการฟื้นฟูคลองแห ซึ่งเป็นลำคลองสายเล็ก ๆ ให้กลับมาเป็นคลองสะอาด กว้างขวาง ทั้งรูปแบบของตลาดน้ำ การแต่งกายของพ่อค้าแม่ค้าที่ร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรม ด้วยการใช้วัสดุจากธรรมชาติบรรจุสินค้า เช่น ใช้กระบอกไม้ไผ่บรรจุน้ำ ใช้กระทงใบตอง และกะลามะพร้าวเป็นภาชนะใส่อาหาร มีทั้งอาหารคาวหวานและอาหารพื้นบ้าน เช่น เต้าคั่ว ข้าวยำปักษ์ใต้ ขนมจีน ฯลฯ ส่วนขนม เช่น ขนมมด ขนมด้วง ขนมโค ขนมไทยแทบทุกชนิด และขนมพื้นบ้านภาคใต้ทุกอย่างสามารถหาทานได้ที่ตลาดน้ำแห่งนี้ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีสินค้าพื้นบ้าน จากภูมิปัญญาท้องถิ่นอีกมากมายตั้งอยู่ที่ท่าน้ำวัดคลองแห

           การเดินทาง 

           สามารถเข้าถึงตลาดน้ำได้สองทาง ทางแรกเข้าทางถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 5 หรืออีกเส้นทางหนึ่งใช้ถนนลพบุรีราเมศวร์ (ทาง 414) และใช้เส้นทางที่จะไปสงขลา จะเห็นป้ายทางเข้าตลาดน้ำคลองแห ให้กลับรถเข้าตลาดน้ำ 

           ที่อยู่ : ตั้งอยู่ ริมฝั่งคลองตรงข้ามกับวัดคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
           วันเวลาเปิดทำการ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.00-22.00 น.
           โทรศัพท์ : 0 7430 5333
           เว็บไซต์ :  เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำคลองแห (klong hae Floating market)


  16. ตลาดน้ำบางคล้า

ตลาดน้ำ

           ตลาดน้ำบางคล้า มีลักษณะเฉพาะตัว โดยเป็นโป๊ะยื่นลงสู่แม่น้ำบางปะกง ภายในเต็มไปด้วยเรือมาจอดขายสินค้าเรียงแถวกันเต็มทั้ง 3 โป๊ะ เช่น อาหารหน้าตาดูดีหลากหลายอย่าง ผลไม้พื้นบ้าน และของที่ระลึกให้เลือกชมเลือกชิมกันจุใจ อาหารน่าชิมมีให้เลือกละลานตาในเรือที่เรียงแถวอยู่สองฝั่งของโป๊ะ เช่น ผัดไทยกระทะกลม ที่ผัดทีละจานทำให้แต่ละจานได้เครื่องครบเท่า ๆ กัน ก๋วยจั๊บพะโล้เจ๊ไพ ก๋วยเตี๋ยว เกี๊ยวปลา ส้มตำ ไก่ย่าง ยำถั่วพู กุ้งสะเต๊ะ กุ้งแม่น้ำเผาสด ๆ หยิบจากกระชังข้าง ๆ เรือกันเลย ไข่ตุ๋นดีไซน์น่ารัก ห่อหมก ขนมหวานก็มีให้เลือกหลายอย่าง เช่น ถั่วแปบหลากสี ขนมถ้วย ลอดช่องดอกอัญชัน ลูกตาล ลูกจาก ข้าวหลามในลูกมะพร้าว ไอศกรีมโฮมเมด ทั้งอาหารคาวและหวานที่นี่น่ากิน รวมถึงพ่อค้าแม่ค้ายิ้มแย้มต้อนรับอย่างเป็นกันเอง

           แต่ถ้าไปเยือน ตลาดบางคล้า แล้วอย่าพลาดไปชิมปลาโจ้โล้ ปลากะพงตัวโตจากกระชังแม่น้ำบางปะกง เผาแล้วรสชาติดีไม่มีกลิ่นคาว กับน้ำจิ้มจัดจ้านถึงใจ ก๋วยเตี๋ยวคลุก ใส่เต้าหู้ขาวชิ้นเล็ก ๆ ไชโป้วบด กระเทียมเจียว กากหมู กุ้งแห้ง หมูหวาน และก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ ร้านบนบก มีไส้ให้เลือก เช่น ไชโป้ว กุยช่าย หน่อไม้ น้ำแกงมีทั้งขาไก่และกระดูกหมูตุ๋นเปื่อยกลิ่นหอมรื่น ใส่พริกผัดลงไปสักหน่อยก็มีรสชาติแบบชนบทที่ชวนคิดถึงเลยทีเดียว

           การเดินทาง 
           เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ (กรุงเทพ-ชลบุรี) เลี้ยวซ้ายออกฉะเชิงเทรา ผ่านเข้าตัวเมือง วิ่งเข้าทางหลวงหมายเลข 304 มุ่งหน้าเข้าสู่อำเภอพนมสารคาม ถึงกิโลเมตรที่ 17 เลี้ยวซ้ายเข้าอำเภอบางคล้า จะเห็นป้ายทางไปตลาดน้ำบางคล้า

           รถประจำทาง : กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา มีรถออกตั้งแต่เวลา 05.00-20.30 น.

           รถไฟ : ออกจากสถานีหัวลำโพงไปฉะเชิงเทราทุกวัน วันละ 11 ขบวน เที่ยวแรกเวลา 05.55 น. เที่ยวสุดท้ายเวลา 18.25 น. ถึงฉะเชิงเทราแล้วต้องต่อรถไปอำเภอบางคล้าอีกต่อหนึ่ง

           ที่อยู่ : ตลาดน้ำบางคล้า อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา
           วันเวลาเปิดทำการ : ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
           โทรศัพท์ : ประธานชมรมตลาดน้ำ 08 1632 4735
           เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำบางคล้า 


 17. ตลาดน้ำปากช่อง
ตลาดน้ำ

ตลาดน้ำ

ตลาดน้ำ

          สวยระรานตา อิ่มระรานใจ ชิมบรรยากาศสุขใจที่ตลาดน้ำอำเภอปากช่อง อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากให้คุณได้เข้ามาลองสัมผัสบรรยากาศตลาดน้ำที่รายรอบด้วยขุนเขา ในอำเภอปากช่อง พื้นที่ต่าง ๆ ภายในโครงการเอื้ออำนวยกับการแสดงสินค้า และงานอีเว้นท์ ต่าง ๆ สถานที่เหมาะแก่การทัศนศึกษาให้ความรู้แก่นักเรียน และยังเปิดรับผู้ประกอบการที่มีสินค้า OTOP ทั่วประเทศ

          การเดินทาง
          1. เส้นทางแรกจากกรุงเทพฯ เดินทางสู่สระบุรี เลี้ยวขวามุ่งสู่ปากช่อง ผ่านเส้นทางเลี่ยงเมือง จากโลตัสถึงโชว์รูปรถเชฟโรเลต 3 กิโลเมตร และกลับรถผ่านปั๊มบางจาก และ ปตท. อีก 1 กิโลเมตร ทางด้านซ้ายเห็นแยกเข้าสู่ตลาดน้ำปากช่อง เข้าไปอีกระยะทาง 2 กิโลเมตร ถึงสู่ตลาดน้ำปากช่องค่ะ

          2. เส้นทางที่สองจากนครราชสีมา เข้าสู่ปากช่อง ผ่านเส้นทางเลี่ยงเมืองจากศูนย์ฝึกสุนัขทหารปากช่อง ตรงไป 5 กิโลเมตรพบปั๊มบางจาก และ ปตท. ทางด้านซ้ายเห็นแยกเข้าสู่ตลาดน้ำปากช่อง เข้าไปอีกระยะทาง 2 กิโลเมตร ถึงตลาดน้ำปากช่อง

          3. เส้นทางที่สามจากเขาใหญ่ ถนนธนะรัชต์ กม.4 พบเซเว่น-อีเลฟเว่นให้ตรงเข้ามา ผ่านโบนันซ่า เข้าไปเพียง 5 กิโลเมตร ถึงตลาดน้ำปากช่อง

          ที่อยู่ : 78 ถนนบายพาสเลี่ยงเมืองปากช่อง ตำบลขนงพระ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
          วันเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน (หยุดอังคาร) ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.
          โทรศัพท์ : 08 8719 8675, 0 4436 5443 และ 0 4436 5444
          เว็บไซต์ : taladnampakchong.com 



 18. ตลาดน้ำท่าคา
          ตลาดน้ำท่าคา เป็นอีกหนึ่งสถานท่องเที่ยวทางน้ำที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ ของวิถีชีวิตชาวบ้านกับอาชีพทำสวนปลูกพืชชนิดต่าง ๆ ชาวบ้านจะพายเรือนำผลผลิต พืชผักและผลไม้จากสวน เช่น พริก หอม กระเทียม น้ำตาลมะพร้าว ฝรั่ง มะพร้าว ชมพู่ และส้มโอ มาขาย-แลกเปลี่ยนกัน เฉพาะในวันขึ้นหรือแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ 12 ค่ำ (ทุก ๆ 5 วัน) ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00–11.00 น. นอกจากนี้ ยังสามารถติดต่อเช่าเรือพายเที่ยวชมหมู่บ้านและเรือกสวนผลไม้ในบริเวณนั้นได้อีกด้วย

          การเดินทาง 

          ไปตามทางหลวงหมายเลข 325 (สมุทรสงคราม-บางแพ) กิโลเมตรที่ 32 (เลยทางแยกเข้าวัดเกาะแก้วไปเล็กน้อย) มีทางแยกขวาไปอีก 5 กิโลเมตร หรือเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางขึ้นรถได้ที่ตลาดตัวเมือง หน้าธนาคารทหารไทย สายท่าคา-วัดเทพประสิทธิ์ ตั้งแต่เวลา 07.00–18.00 น. รถออกทุก 20 นาที

          ที่อยู่ : ตลาดน้ำท่าคา ตำบลท่าคา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
          วันเวลาเปิดทำการ : เฉพาะในวันขึ้นหรือแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ 12 ค่ำ ตั้งแต่เวลา 07.00-12.00 น
          โทรศัพท์ : ประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม 0 3471 4881


 19. ตลาดน้ำวัดตะเคียน

ตลาดน้ำ

          ตลาดน้ำขนาดเล็ก ๆ ที่เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนริมคลองในแบบไทย ๆ ที่มีของกินมากมาย ส่วนใหญ่เน้นอาหารพื้นบ้านของจังหวัดนนทบุรี เปิดอย่างเป็นทางการโดย หลวงปู่แย้ม มาทำพิธีเปิดพร้อมได้พรมน้ำมนต์ให้กับเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ที่เตรียมตัวมาพายเรือค้าขายอยู่บริเวณตลาดน้ำวัดตะเคียนแห่งนี้ โดยกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจภายในตลาดน้ำ คือ การล่องเรือชมทัศนียภาพสองฝั่งคลองบางคูเวียงและคลองบางราวนก ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านริมคลองที่ยังรักษาบ้านเรือนไทยโบราณ ที่เต็มไปด้วยสีสันของธรรมชาติและร่องรอยอารยธรรมได้เป็นอย่างดี

          การเดินทาง 


          หากไปทางรถยนต์เริ่มต้นจากแยกแคราย จังหวัดนนทบุรี วิ่งตรงไปข้ามสะพานพระราม 5 จากนั้นวิ่งตรงไปตามถนนนครอินทร์ จนถึงถนนกาญจนาภิเษก ให้กลับรถใต้สะพานก่อนข้ามแยก แล้วมุ่งหน้าย้อนกลับมาทางเดิมประมาณ 1 กิโลเมตร จะเห็นสะพานลอยให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปช่องคู่ขนาน และเลี้ยวซ้ายเข้าไปตรงป้ายวัดตะเคียน สอบถามเส้นทางได้ที่ โทรศัพท์ 0 2595 1851, 08 1921 0946

          ที่อยู่ : ถนนพระราม 5 ถนนนครอินทร์ จังหวัดนนทบุรี
          วันเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
          โทรศัพท์ : 08 6976 1686
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำวัดตะเคียน 



 20. ตลาดน้ำบางคูเวียง
          ตลาดน้ำบางคูเวียง อาจจะยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่เป็นที่รู้จักนัก เพราะตั้งอยู่ปากคลองบางคูเวียง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตลาดของชาวบ้านที่ต้องการนำผลไม้ตามฤดูกาลบรรทุกเรือมาค้าขายกัน นอกจากนี้ ยังมีอาหารและสินค้าอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน โดยทุกเช้าพระภิกษุจากวัดบริเวณใกล้เคียงจะออกบิณฑบาตโดยใช้เรือลำเล็ก ๆ เป็นพาหนะ นับเป็นภาพที่สะท้อนวิถีชีวิตแบบไทยดั่งเดิมไว้เป็นอย่างดี เพราะยังนับวันจะหาดูได้ยาก

         การเดินทาง
         รถยนต์ : เริ่มต้นจากแยกแคราย จังหวัดนทบุรี วิ่งตรงไปข้ามสะพานพระราม 5 จากนั้นวิ่งตรงไปตามถนนนครอินทร์ จนถึงถนนกาญจนาภิเษก ให้กลับรถใต้สะพานก่อนข้ามแยก แล้วมุ่งหน้าย้อนกลับมาทางเดิมประมาณ 1 กิโลเมตร จะเห็นสะพานลอยให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปช่องคู่ขนาน และเลี้ยวซ้ายเข้าไปตรงป้ายวัดตะเคียน และต้องนั่งเรือต่อเข้าไปที่ตลาดน้ำบางคูเวียง ซึ่งมีท่าเรือ ดังนี้…

         เรือ : โดยสารเรือจากท่าน้ำวัดชะลอ อำเภอบางกรวย ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ค่าโดยสารคนละ 5 บาท ออกทุก ๆ 15 นาที ระหว่าง 05.00-20.00 น., จากท่าน้ำนนทบุรี (ท่าพิบูลสงคราม 2) ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ค่าโดยสารคนละ 5 บาท กรณีเช่าเรือเหมาลำใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง และเช่าเรือจากท่าช้าง กรุงเทพฯ ใช้เส้นทางคลองบางกอกน้อย-คลองอ้อมตลาดน้ำบางคูเวียง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

         ที่อยู่ : ตั้งอยู่ปากคลองบางคูเวียง ตำบลบางคูเวียง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
         วันเวลาเปิดทำการ : วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-14.00 น.



         เป็นยังไงกันบ้าง เต็มอิ่มกับ 20 ตลาดน้ำสุดฮิตที่เรามาฝากกันแล้ว ตอนนี้ก็คงถือเวลาที่เราจะวางแผนการเที่ยว ช้อป ชม ชิม เดินชิล ๆ ที่ตลาดน้ำสักที อย่างนี้ต้องเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศด้วยตัวเองแล้วล่ะ

อ่านเพิ่มเติม »